Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า

ดูหนัง Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า

ดูหนัง ดูหนังออนไลน์ ดูหนัง hd มีหนังให้ดูฟรีตลอด24ชั่วโมง ดูหนังออนไลน์ หนังใหม่ชนโรงฟรี หนังใหม่ 2020 ดูหนังออนไลน์ 4K freemovie24hd เรามี หนังใหม่ เข้ามาอัพเดทให้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น หนังไทย 037 หนังเอเชีย หนังเกาหลี หนังเอวี หนังx หนังฝรั่ง เพจดูหนัง หนังเรท18+ รวมทั้ง ดูหนัง Netflix  ซีรี่ย์เกาหลี สุดโปรด ซีรีย์ฝรั่ง ที่น่าติดตาม เว็บดูหนัง ของเรา จะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังอย่างแน่นอน ถ้าจะกล่าวถึงเรื่องคุณภาพ ต้องขอบอกเลยว่าคุณภาพ ของหนังที่นำมาอัพเดท ลงไว้ในเว็บ ดูหนัง ของเรานั้น เสียงชัดเจน หนังเต็มเรื่อง หนังพากษ์ไทย คุณภาพระดับ HD ภาพคมชัด 4K ไม่ว่าจะเป็น หนังซูม หนังชนโรง ที่เว็บ ดูหนังออนไลน์ ของเราก็มี  ท่านสามารถ Bookmark เว็บเราไว้ในบราวเซอร์ Chorme ได้เลย อยากดูหนังเมื่อไหร่ก็เข้าดูได้ทุกที่ ทุกเวลา ขอฝากเว็บนี้ไว้ในใจของทุกท่านด้วยนะครับ

เรื่องย่อ  Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า

ดูหนัง ดูหนังออนไลน์ รถไฟหัวกระสุนขบวนนี้..ไม่น่าจะอยากมีใครย่างก้าวขึ้นไปโดยสารด้วยแน่ ๆ เพราะคือขบวนที่อัดแน่นไปด้วยเหล่านักฆ่ามือฉมังจากทั่วโลก ที่โคจรมาขึ้นรถไฟเที่ยวเดียวกันใน "Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า" หนังแอคชั่นสุดระห่ำที่เต็มไปด้วยกองทัพดาราฮอลลิวูดอัดแน่คับจอ ที่เป็นการหยิบเอานิยายทริลเลอร์ชื่อดังมาดัดแปลงใหม่และร้อยเรียงออกมาเป็นหนังบู๊ปนขำเรื่องนี้

Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า เล่าเรื่องราวของ เลดี้บั๊ก นักฆ่าพาซวย ที่โชคชะตามักจะมีอะไรเซอร์ไพรส์เสมอ กับภารกิจครั้งสำคัญที่ทำให้เขาต้องปะทะกับนักฆ่าจากทั่วโลก ทุกคนต่างมีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกันแต่ก็ต้องต่อกรกันอย่างเลี่ยงไม่ได้บนรถไฟที่เร็วที่สุด...เขาจะลงจากขบวนรถไฟได้อย่างไร ปลายทางสุดโกลาหล เป็นจุดเริ่มต้นความระห่ำ

นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ "เดวิด ลิตช์" ผู้ที่เคยสร้างตำนานให้กับ Deadpool 2 และบู๊สุดเฉียบใน Atomic Blonde โดยในครั้งนี้เขายังกลับมาหยิบจับผลงานระดับบ็อกซ์บัสเตอร์ทุนหนาอีกครั้ง ด้วยการดัดแปลงเรื่องราวจากนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ "โคทาโร่ อิซะกะ" ถือนับว่าผลงานชิ้นนี้เป็นงานเขียนระดับมาสเตอร์พีชในอาชีพของเขาเลยก็ว่าได้

แน่นอนว่า เดวิด ลิตช์ ยังคงรู้ทิศทางและแนวทางในการดีไซต์หนังแอคชั่นระห่ำที่มีพื้นที่จำกัดอยู่เพียงแค่รถไฟขบวนเดียวได้อย่างมีพรสวรรค์ ผู้ชมสามารถไว้วางใจกับองค์ประกอบของฉากบู๊ต่าง ๆ ที่ถือว่าออกแบบมาได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ และใส่เข้าไปได้รสสัมผัสที่จัดจ้านดีไปตลอดทั้งเรื่อง ถือว่าเป็นอีกสิ่งที่ทำออกมาได้ไม่เสียของ และไปได้เกือบสุดทางอยู่

แต่กระนั้น Bullet Train ก็ยังเต็มไปด้วยจุดบกพร่องประปรายตามทางของหนังตลอด 2 ชั่วโมง แน่นอนว่าจุดหนึ่งที่ทำให้รู้สึกยังไม่ซื้อหนังเรื่องนี้สักเท่าไหร่ นั่นก็คือการที่หนังพูดมากเกินไปสักหน่อย หนังเปิดฉากมาด้วยการสนทนาปูเรื่องในช่วง 30 นาทีแรก ที่สารภาพตรง ๆ ว่าอ้าปากห้าวไปหลายรอบ แม้ว่าบทจะส่งมุกจิกกัดชวนหัวร่อออกมา แต่กลับไม่สามารถทำปฏิกิริยาร่วมได้สักเท่าไหร่

ช่วงแรกของ ๆ ของ Bullet Train จึงมีพร้อมกับอารมณ์เหมือนนั่งรถไฟผิดตู้หรือผิดคลาสที่ซื้อตั๋วเอาไว้ หนังค่อนข้างปูทางได้ไม่น่าดึงดูดสักเท่าไหร่ ถึงจะใช้เทคนิคตัดต่อสลับฉึบฉับและหยอดมุกให้ดูขบขัน แต่กลับยังไม่สามารถประสบความสำเร็จในตรงนั้นได้ แต่ก็มีเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อหนังเข้าเรื่องราวและจุดประกายของเรื่องติดได้แล้ว ก็ค่อย ๆ ไหลลื่นขึ้นไปได้ดีตลอดทาง

แน่นอนว่าไฮไลต์เด็ดดวงของเรื่องนี้ก็คือทีมนักแสดงนั่นเอง แม้ว่าภาพหนังจะขาย "แบรด พิตต์" ที่นักแสดงนำ แต่จริง ๆ เขาก็เป็นแค่เพียงดาราเบอร์ใหญ่ที่สุดของเรื่องเท่านั้น เพราะ Bullet Train ไม่ได้แค่ให้แต่แอร์ไทม์กับแบรดเพียงคนเดียว ยังมี "โจอี้ คิง", "แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน" หรือ "ไบรอัน ไทรี เฮนรี" ที่ได้รับการเกลี่ยเฉลี่ยบทคละเคล้ากันค่อนข้างเสมอภาคดีในหนังเรื่องนี้ แบบที่ไม่มีใครโดดเด่นไปเหนือกว่าใคร

และต้องปรบมือกับพรสรรค์และทักษะของแคสติ้งชุดนี้ ที่ต้องยอมรับเลยว่าพวกเขาคือจุดขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ Bullet Train เคลื่อนขบวนไปข้างหน้าได้อย่างเอ็นจอยตลอดการเดินทาง แม้จะมีจุดที่ขรุขระอยู่บ้าง แต่กระนั้นไปถึงจุดหมายปลายทางได้ปลอดภัยดีอยู่ เคมีของนักแสดงและการเข้าขากันดีโดยธรรมชาติของพวกเขา เป็นสิ่งที่ส่งเสริมหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี

ในขณะที่องค์ประกอบอื่น ๆ ก็ถือว่าน่าพอใจ ทั้งงานดีไซน์ฉากและบรรยากาศโดยรอบ ที่ต้องสื่อสารความเป็นญี่ปุ่นออกมาทั้งเรื่อง แม้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นก็คือญี่ปุ่นแบบฮอลลิวูด ๆ ที่มักจะเน้นดีไซน์แสงสีจัดจ้านไปสักหน่อย กับการที่ชอบใส่ความกุ๊กกิ๊กกิมมิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เมื่อ 10 ปีเคยทำอย่างไรก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ ถึงกับอยากจะไปกระซิบบอกผู้สร้างว่า ญี่ปุ่นแบบนี้มันค่อนข้างดูปลอมไปสักนิด

ขณะที่บทหนังก็ถือว่าลื่นไหลไปดี แม้ว่าจะมีองค์ประกอบและตัวละครที่ต้องแนะนำค่อนข้างเยอะก็ตาม แต่ก็ถือว่าบทหนังเกลี่ยไปในส่วนต่าง ๆ ได้ค่อนข้างน่าพึงพอใจ อาจจะยังไม่ใช่การดัดแปลงบทที่ดี แต่ก็ไม่ได้เข้าขั้นย่ำแย่จนไม่ได้น่าดูชมอะไรทำนองนั้น บทหนังก็ยังจัดได้ว่าเล่าเรื่องไปได้สนุก ๆ และเสริมทัพด้วยการอิมโพรไวส์ของเหล่านักแสดงที่ทำให้หนังออกมาเป็นธรรมชาติ

สำหรับใครหมายมั่นว่าจะมาดู Bullet Train เพื่อจะมาเห็นการไล่ฆ่าดีเดือดกันบนขบวนรถไฟหัวกระสุนกันโดยเฉพาะ อาจจะต้องบอกว่าอย่างเพิ่งตั้งธงไปเช่นนั้น เพราะอาจจะทำให้คุณไม่สมหวังได้ แต่กระนั้นฉากเซอร์วิสอะไรแบบนั้นมีแน่นอน แต่มันก็มีกับแกล้มไปด้วยการเล่าเรื่องที่ฉับไวและบทสนทนาที่อาจจะทำให้คุณรู้สึกเฉี่อยชาไปสักหน่อยในตอนแรก ๆ แต่พอรถไฟขบวนนี้ทำความเร็วได้ดีแล้ว ก็ถือว่าแล่นไปตามทางได้รสชาติและความสนุกที่อิ่มเอมใจได้ตลอดเส้นทาง

 

แนะนำหนังน่าดู > ดูหนัง